คุณพร้อมกันแล้วหรือยังกับการเตรียมการปันส่วนงบด้าน Digital Media ปี 58

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง หรือการทำตลาดบนโลก อินเตอร์เน็ต ในทุกวันนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น จากการตรวจตราของ Gartner ที่ตีพิมพ์ในพฤศจิกายน 2014 ที่ผ่านมา งบสำหรับดิจิตัล มาร์เก็ตติ้งจะเพิ่มปริมาณ 8% ในปี 2015 และในปี 2014 นี้ หลายบริษัทมีการใช้จ่าย 10.2% (ถัวเฉลี่ย) ของรายรับทั้งปีสำหรับกิจกรรมด้านMarketingที่ครอบคลุมงบประมาณทุก3 เดือน ผลการสำรวจพบว่าจาก 51% ของบริษัทที่ตระเตรียมเพิ่มงบประมาณด้านดิจิตัล มาร์เก็ตติ้งในปี 2015 มีการเพิ่มขึ้นถัวเฉลี่ยใกล้เคียง 17%

Laura McLellan รองประธานฝ่ายวิจัยของ Gartner กล่าวว่า “เส้นแบ่งระหว่างมาเก็ตติ้งในรูปแบบดิจิทัลกับมาเก็ตติ้งแบบดั้งเดิมนั้นยังคงไม่ชัดเจน” ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งยังคงเป็นฝ่ายข้างน้อยในมาเก็ตติ้งของยุคดิจิทัลสำหรับในปี 2014 นั่นทำให้นักการตลาดสามารถจัดแจงและวางแผนกับส่วนประสมการตลาด (marketing mix) ได้ลงตัวกว่าปีก่อนๆ ที่อยู่ในรูปแบบInternetและออฟไลน์ ส่งผลให้โมเดลการซื้อของลูกค้าที่มีประสบการณ์ด้านดิจิทัล ถูกเปลี่ยนมาเป็นการให้บริการตนเองมากขึ้น และสุดท้ายก็จะช่วยลดงบประมาณที่ใช้ในการเร่งยอดจำหน่ายในรูปแบบเดิมๆ ได้ หรือกล่าวได้ว่าดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งจะช่วยเพิ่มผลกำไร ในขณะที่ใช้งบประมาณคงเดิม และยังช่วยเพิ่มความชำนาญของผู้บริโภคโดยการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านทางช่องทางต่างๆ ได้มากขึ้น

ตามที่กล่าวมาข้างต้น จึงไม่มีปริศนาว่า เหตุใดดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งจึงเจริญงอกงามได้อย่างต่อเนื่องในปี 2015? แต่ข้อสงสัยที่ตามมาคือ จะจัดสรรงบประมาณของดิจิทัลมีเดียอย่างไรดีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด? ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีโมเดลไหนที่จะเหมาะสมกับทุกธุรกิจ แม้ว่าคู่กัดทางตรงจะมีวิธีพลิกแพลงที่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าการจัดสรรงบประมาณแบบเดียวกันจะให้ผลสรุปเหมือนกันเสียทีเดียว แต่ข้อสำคัญที่จำเป็นต้องทำในการเสนอช่องทางไปยังผู้บริโภคคือ ดูว่าผู้บริโภคจะมีปฏิสัมพันธ์กับโอกาสเหล่านั้นอย่างไร

budget

วิดีโอโฆษณา
ตามที่ eMarketer บริษัทวิจัยตลาดในโลกดิจิทัลพยากรณ์ว่า ในสหรัฐอเมริกาจะมีเม็ดเงินลงสื่อโฆษณาทางวิดีโอที่เพิ่มขึ้นไปตลอดจนถึงปี 2018 อีกงานวิจัยที่จัดทำโดย Interactive Advertising Bureau (IAB) พบว่า การลงโฆษณาวิดีโอออนไลน์ผ่านช่องทางอย่าง YouTube ก่อนที่จะลงโฆษณาทางโทรทัศน์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลของโฆษณาทั้งทางวีดีโอออนไลน์และทางทีวี การเติบโตแบบก้าวกระโดดของดิจิทัลวีดีโอและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของโฆษณาทางทีวีนั้น อาจจะแสดงให้นักการตลาดในปัจจุบันนี้เล็งเห็นถึงเหตุจำเป็นที่จะต้องพิจารณากระบวนการที่วิเศษในการจัดการเนื้อหาระหว่างหน้าจอทีวีและดิจิทัลวิดีโอ

โฆษณาบนโทรศัพท์เคลื่อนที่
ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักการตลาดควรจับตามองในการแบ่งสรรงบประมาณ เราทราบกันดีว่าดิจิทัลทีวีและโฆษณาวีดีโอออนไลน์จะเติบโตอย่างมาก และในปี 2014 เราได้เห็นความหมายของการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือที่มีมากกว่าการใช้งานผ่านเดสก์ท็อปแล้วในสหรัฐอเมริกา หากเรานำสองอย่างนี้มารวมกัน จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สองเท่า เพราะผู้บริโภคส่วนมากรับชมวีดีโอผ่านทางมือถือนั่นเอง ตามที่ KPCB Mary Meeker’s 2014 Internet Trends Report ได้พินิจพิเคราะห์ว่า 22% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมีการรับชมวิดีโอดิจิทัล

Content Marketing
เพราะProgramsค้นหาหรือ search engine ในยุคปัจจุบันสามารถทำความเข้าใจในคำค้นหาได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น ยิ่งมีการพัฒนาเนื้อหาให้ทรงคุณภาพมากเท่าใด ก็จะยิ่งส่งผลต่อการรับรู้ของผู้ซื้อมากเช่นกัน ในปี 2014 เราได้เห็นการเชื่อมโยงระหว่าง SEO และ Content Marketing แล้ว และจะยิ่งเห็นมากขึ้นในปี 2015 ในขณะที่ Content Marketing ได้มีการเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ของ SEO และโซเชียลมีเดียนั้น ช่องทางการตลาดก็จะเติบโตอย่างเร็วไปตามๆ กัน นำไปสู่มาเก็ตติ้งแบบ Influencer และบล็อกออนไลน์

เมื่อได้เห็นพลังของช่องทางมาเก็ตติ้งในการขับเคลื่อนข้อมูล ข่าวสาร เค้าความได้อย่างมีศักยภาพ ขั้นตอนเหล่านี้จึงถูก Retargeting หรือมีการกระตุ้นให้ผู้ซื้อกลับเข้ามาเลือกซื้อสินค้าและบริการอีก เห็นได้จากการศึกษาของ comScore ที่มีการ Retargeting สื่อโฆษณา ทำให้มีการค้นหาแบรนด์ผ่าน smart search เพิ่มขึ้นถึง 1046% และ 726% ของการเข้าชมเว็บไซต์ภายใน 4 สัปดาห์หลังจากที่มีการทำ Retargeting ถือว่าเป็นแผนการที่มีอำนาจมากในการสร้างโอกาสให้เกิดการซื้อสินค้ามากขึ้น

Sponsor : rejoicings travel

No comments:

Post a Comment